เข้าชม : 887 ครั้ง
รหัสสินค้า : #JWO1238 น้ำหนัก : 450 กรัม Packing : 9*9*6 cm.
ความเหมือนของสินค้าตัวเลือกสินค้า | 50 ถึง 100 ชิ้น / ชิ้นละ | 100 ชิ้นขึ้นไปชิ้นละ |
ชมพู | 550฿.- | 450฿.- |
ฟ้า | 550฿.- | 450฿.- |
นาฬิกาโทรศัพท์ได้ เช็คได้ว่าเด็กอยู่ที่ไหน ฟรี แอป
หน้าจอภาษาอังกฤษ เมนูภาษาอังกฤษ
มีคู่มือการใช้ภาษาไทยแนบ หรือสามาถโทรสอบถามการใช้งานได้ ที่ call center
ใช้ซิม ไมโคร โหลดแอปได้ จาก google play store
ชื่อแอป setracker2
* ซิมที่ใส่ ต้อง เปิดระบบ GPS ให้เรียบร้อย จากมือถือและจำเป็น ต้องเป็นซิม ที่สามารถใช็เน็ตได้ จึงสามารถ เช็คได้ ว่าเด็กอยู่ที่ไหน หกาไม่มี เน็ต จะโทรเข้าออกได้อย่างเดียว
รุ่น: Q55
ชื่อสินค้า:นาฬิกาติดตามจีพีเอส
ฝูงชนที่เหมาะสม:เด็ก
กล้อง:ไม่มีการสนับสนุน
วิธีการสวมใส่:สายรัดข้อมือ
ขนาดหน้าจอ: 0.96นิ้ว
ฟังก์ชั่น: SOS, passometer,ข้อความเตือน,โทรเตือน,การสื่อสารสองทาง
กรณีวัสดุ:โลหะมีค่า
วงวัสดุ:ยาง
เข้ากันได้:ทั้งหมดเข้ากันได้
สไตล์:น่ารัก,แฟชั่น
สนับสนุน:ซิมการ์ด
ความจุแบตเตอรี่: 400มิลลิแอมป์ชั่วโมง
Couleur: Bleu/vert/โรส
สรีระ: Anglais
SOS:เมื่อเด็กตอบสนองอันตรายสถานการณ์พวกเขาสามารถใช้ฟังก์ชั่นSOS
สามารถเช็คได้ แบบ real time (GPS) ว่าเด็ฏอยุ่ที่ไหน มีแอปให้โหลด และเช็ค
อัจฉริยะประหยัดพลังงาน:จีพีเอสปิดโหมดประหยัดพลังงาน
Passometer: วัดการเดินของเด็กได้
ตั้งปลุกได้
ใช้:ประมาณ100ชั่วโมง
สนทนาระหว่าง แอป และนาฬิกาได้ แบบส่ง เสียง อินเตอร์ คอม
แผนที่:มุมมองเรียลไทม์ที่ตั้งของนาฬิกา
ตั้งเวลาได้ ว่าจะให้โทรเข้าออกไพด้ ช่วงไหน บ้าง ไม่รบกวนเวลา เรียน ขณะที่เด็ก อยู่ที่โรงเรียน
ตั้งจัดเก็บรายชื่อ ได้ถึง10หมายเลข
DND (ไม่รบกวน)เวลา:สำหรับการโทรเข้าทั้งหมดจะมีป้องกันในระหว่างDNDเวลา
เมื่อส่ง sms ไปเรียบร้อยแล้วรอสักพักจะมีข้อความตอบกลับมา แล้วจึงทดสอบให้โทรศัพท์มือถือสั่งให้นาฬิกาส่งเสียงอีกครั้งดูว่าได้ผลหรือไม่ ถ้ายังไม่ได้ให้ติดต่อผู้ขายเพื่อทำการแก้ไขต่อไป
การใช้งานนาฬิกา
การใส่และถอดซิมการ์ด
ให้ใส่ที่ด้านข้างฝั่งซ้ายของตัวนาฬิกา
โดยเปิดแผ่นพลาสติกที่ปิดอยู่ด้านซ้ายแล้วจึงใส่ซิมการ์ดได้
ส่วนการถอดซิมการ์ดให้ดันซิมการ์ดเข้าไปลึก
ๆ จะมีสปริงเด้งซิมการ์ดออกมา
การชาร์จแบตเตอรี่
ให้เปิดแผ่นพลาสติกที่ปิดอยู่ด้านซ้ายออกเหมือนการใส่และถอดซิมการ์ด
จะเห็นช่องที่ให้เสียบเพื่อชาร์จไฟซึ่งจะอยู่ข้าง ๆ ซิมการ์ด
ในตอนที่ซื้อนาฬิกาในกล่องจะมีสายชาร์จให้ไปด้วย
ให้เอาด้านหัวขนาดเล็กของสายชาร์จต่อเข้ากับนาฬิกา อีกด้านจะเป็น USB ไว้เสียบเพื่อชาร์จไฟเหมือนโทรศัพท์มือถือทั่วไป
การเปิดและปิดนาฬิกา
การเปิดนาฬิกาให้กดปุ่ม Power ตรงกลางที่อยู่ด้านข้างฝั่งขวามือค้างไว้รอสักครู่นาฬิกาจะเริ่มทำงาน
การปิดนาฬิกา
·
ในกรณีที่ยังไม่มีการใส่ซิมการ์ดสามารถทำได้โดยกดปุ่ม
Power ตรงกลางที่อยู่ด้านข้างฝั่งขวามือค้างไว้รอสักครู่นาฬิกาจะหยุดทำงาน
·
ถ้าใส่ซิมการ์ดไปแล้วจะไม่สามารถปิดนาฬิกาด้วยปุ่ม
Power ได้ ต้องถอดซิมการ์ดออกก่อนหรือต้องสั่งปิดด้วยแอปพลิเคชัน SE Tracker ที่อยู่บนโทรศัพท์มือถือเท่านั้น
การอ่านข้อมูลบนหน้าปัดนาฬิกา
หน้าปัดนาฬิกาจะมีการแสดงข้อมูลดังนี้
·
คุณภาพของสัญญาณ
·
แบตเตอรี่ที่เหลือ
·
เวลาและวันที่
·
จำนวนก้าวที่เดินในวันนี้
·
จำนวนหัวใจที่ได้รับ
การโทรออก
·
ให้กดปุ่มบนเพื่อแสดงรายชื่อในสมุดโทรศัพท์
·
ใช้ปุ่มบนเพื่อเลื่อนรายชื่อขึ้น
และปุ่มล่างเพื่อเลื่อนรายชื่อลง
·
กดปุ่มบนค้างประมาณ
5 วินาทีเพื่อโทรออก ถ้ากดค้างไว้ 5 วินาทีแล้วไม่มีการโทรออกให้ลองปล่อยแล้วค่อยกดค้างใหม่อีกครั้ง
·
การตัดสายทิ้งเมื่อคุยเรียบร้อยแล้วให้กดปุ่ม
Power ที่อยู่ตรงกลางด้านข้างฝั่งขวาของนาฬิกา
การปรับเสียงเบาดังขณะคุยโทรศัพท์
·
กดปุ่มบนเพื่อปรับเสียงให้ดังขึ้น
·
กดปุ่มล่างเพื่อปรับเสียงให้เบาลง
การส่งข้อความเสียงไปยังแอปพลิเคชัน SE Tracker
·
ให้กดปุ่มล่างค้างไว้จนหน้าปัดแสดงว่ากำลังบันทึกเสียง
(Sound Recorder) และกดค้างไว้
·
พูดเพื่อบันทึกเสียงที่ต้องการส่งแต่ได้ไม่เกิน
15 วินาที
·
ปล่อยปุ่มล่างเพื่อหยุดบันทึกและส่งข้อความไปยังโทรศัพท์
การรับสายเข้าหรือรับข้อความที่เข้ามา
หรือตัดสายทิ้งเพราะไม่สะดวกรับ
·
ให้กดปุ่มล่างด้านขวาของนาฬิกาเพื่อรับข้อความที่ส่งเข้ามา
·
ให้กดปุ่มบนด้านขวาของนาฬิกาเพื่อรับสายโทรเข้า
·
ถ้าต้องการตัดสายทิ้งให้กดปุ่ม
Power ที่อยู่ตรงกลางด้านข้างฝั่งขวาของนาฬิกา
การกลับไปที่หน้าแรกสุดของนาฬิกา
ไม่ว่าจะอยู่ที่หน้าสมุดโทรศัพท์หรืออะไรก็ตามสามารถกลับไปที่หน้าแรกสุดของนาฬิกาด้วยการการกดที่ปุ่ม
Power ที่อยู่ตรงกลางด้านข้างฝั่งขวาของนาฬิกา
การส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน (SOS)
ให้กดปุ่ม power ตรงกลางด้านขวาค้างไว้สักประมาณ 7 วินาที
หน้าปัดของนาฬิกาจะแสดงให้เห็นว่ามีการติดต่อหาเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินที่เราได้กำหนดไว้จาก
SE Tracker
หมายเหตุ ถ้ากดค้างไว้ประมาณ 10 วินาที แล้วหน้าปัดไม่แสดงการโทรออก
ให้ปล่อยแล้วลองกดค้างใหม่อีกครั้ง
การใช้งานแอปพลิเคชัน SE Tracker
สรุปความหมายของปุ่มต่าง ๆ อย่างย่อ
เป็นการสรุปวิธีการใช้งานโปรแกรมอย่างย่อ
ๆ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็ว แต่อาจจะไม่ละเอียด
·
อินเตอร์คอม(CHAT) สำหรับส่งข้อความเสียงหรือข้อความตัวหนังสือไปยังนาฬิกา
·
สุขภาพ(HEALTH) ใช้กำหนดการตรวจจับข้อมูลสุขภาพและตรวจสอบข้อมูลสุขภาพของผู้ใส่นาฬิกา
·
แผนที่(MAP) ไว้ค้นหาตำแหน่งปัจจุบันของนาฬิกา
·
รอยเท้า(FOOTPRINT) ไว้ตรวจสอบประวัติการเดินทางของผู้ใส่นาฬิกา
·
บริเวณปลอดภัย(GEOFENCE) ใช้สำหรับต้องขอบเขตที่มีความปลอดภัย
ถ้าออกจากขอบเขตที่กำหนดจะมีการแจ้งเตือนมายังแอปพลิเคชัน
·
ให้รางวัลเป็นรูปหัวใจ(REWARDS) ใช้กำหนดรางวัลให้กรณีที่ผู้ใส่นาฬิกาทำความดี
·
ศูนย์ข้อมูล(MESSAGE) เป็นที่รวบรวมข้อมูลการแจ้งเตือนต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นการออกนอกบริเวณปลอดภัย แบตเตอรี่ของนาฬิกาใกล้จะหมด หรือการถอดนาฬิกา
เป็นต้น
·
เพลงอุปกรณ์ปลุกของอุปกรณ์(ALARM) ไว้ตั้งเวลาสำหรับให้นาฬิกาปลุกซึ่งตั้งได้ทั้งหมด 3 เวลา
·
หาอุปกรณ์(DEVICE) ใช้สั่งให้นาฬิกาส่งเสียงในกรณีที่หานาฬิกาไม่เจอ
·
การตั้งค่า (SETTINGS) ใช้สำหรับกำหนดค่าต่าง ๆ ดังนี้
·
SOS/หมายเลขคนใกล้ชิด(SOS Number) ใช้กำหนดหมายเลขที่จะนาฬิกาจะโทรหาในกรณีกดปุ่มฉุกเฉินค้างไว้
7 วินาที
·
การดูแลโดยเสียง(Monitoring) สั่งให้นาฬิกาโทรกลับมาหาโดยผู้ใส่นาฬิกาไม่รู้ตัว
เพื่อแอบฟังเสียงรอบข้าง
·
โหมดการทำงาน(Work Mode) จะใช้เพื่อกำหนดระดับความแม่นยำของการค้นหาตำแหน่งด้วย GPS โดยปกติจะใช้เป็นโหมดปกติ(Normal mode) แต่ถ้าต้องการประหยัดพลังงานให้ใช้โหมดประหยัดพลังงาน(Power save mode) ซึ่งความแม่นยำจะน้อยลง และถ้าใช้โหมดติดตาม(Follow) ความแม่นยำจะเพิ่มขึ้นแต่เปลืองแบตเตอรี่
·
เวลาห้ามรบกวน(Do not Disturb) ใช้ตั้งช่วงเวลาที่ห้ามโทรเข้าหานาฬิกา ซึ่งตั้งได้ 3 ช่วงเวลา
·
ตั้งค่าการแจ้งเตือนทาง
SMS(SMS Alerts) ใช้เปิดปิดการแจ้งเตือนทาง SMS ในกรณีที่ แบตเตอรี่ของนาฬิกาใกล้หมด
มีการกดปุ่มฉุกเฉินที่นาฬิกาค้างไว้เกิน 7 วินาที และมีการถอดนาฬิกา
·
สมุดโทรศัพท์ของเด็ก(Contacts) ใช้สำหรับกำหนดเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถโทรเข้านาฬิกาได้
·
สมุดโทรศัพท์(Telephone) ใช้สำหรับกำหนดเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถโทรเข้าและโทรออกจากนาฬิกาได้
·
ภาษาและโซนเวลา(Language and Time Zone) ไว้สำหรับตั้งเวลาให้กับนาฬิกา โดยปกติจะตั้งเป็น East:GMT+7:00 ซึ่งเป็นเวลาของประเทศไทย
·
ดันสวิตซ์(Push Switch) ไว้เปิดให้มีการแจ้งเตือนกรณีถอดนาฬิกาผ่านทางแอปพลิเคชัน (ต้องใส่นาฬิกาไว้อย่างน้อย
3 นาทีเซ็นเซอร์ถึงทำงาน)
·
ปอนด์ (LBS) ไว้เปิดปิดการค้นหาตำแหน่งด้วยระบบ LBS
·
ปิดเครื่องจากระยะไกล
(Remote Shut Down) ใช้สั่งปิดนาฬิกาจากแอปพลิเคชัน
·
ฟื้นฟูการทำงานแบบเริ่มต้น
(Restore the default
work mode) ใช้ล้างการตั้งค่าทั้งหมด
การลงทะเบียนผู้ใช้งานใหม่
1.
ในหน้าล็อกอิน (Login) ให้เลือกลงทะเบียน (Register)
2.
ทำการกรอกข้อมูลต่าง
ๆ แล้วกด Ok สำคัญคือคุณต้องเลือก Area เป็น Asia and Oceania สำหรับการใช้งานภาษาอังกฤษ
และเลือกพื้นที่ เป็น เอเชียและโอเชียเนีย สำหรับการใช้การงานภาษาไทย
การเข้าสู่ระบบ
1.
ให้กรอก บัญชี (Account), รหัสผ่าน (Password) และติีกถูกที่ ล็อกอินโดยอัตโนมัติ (Auto Login)
2.
เลือกภาษาที่ต้องการ สำคัญคือคุณต้องเลือก Area เป็น Asia and Oceania สำหรับการใช้งานภาษาอังกฤษ
และเลือกพื้นที่ เป็น เอเชียและโอเชียเนีย สำหรับการใช้การงานภาษาไทย
3.
กดปุ่มล็อกอิน (Login)
การออกจากระบบ
ล่างสุดของหน้าจอในเลือกของฉัน(MY) แล้วเลือกออกจากระบบ(Exit) ตรงกลางหน้าจอ
การรีเซ็ต (Reset) รหัสผ่านถ้าลืมรหัสผ่าน
1.
ในหน้าล็อกอิน (Login) ให้กดที่ลืมรหัสผ่าน? (Forgot password?)
2.
ให้ทำการกรอกข้อมูลต่าง
ๆ ดังนี้ แล้วกด Ok
·
รหัสลงทะเบียน (License) คือรหัสประจำนาฬิกาที่อยู่ด้านหลังของนาฬิกาทุกเรือน
·
ชื่อล็อกอิน (Account) คือชื่อบัญชีที่เราต้องการให้รีเซ็ตรหัสผ่าน
·
โทรศัพท์ (P_number) คือเบอร์โทรศัพท์จะประจำบัญชีผู้ใช้ที่เราได้กรอกเข้าไปตอนลงทะเบียนผู้ใช้งานใหม่
·
ภาษา (Language)ให้เลือก ภาษาไทย หรือ English ก็ได้
·
พื้นที่ (Area) ให้เลือก เอเชียและโอเชียเนีย (Asia and Oceania)
3.
ถ้าข้อมูลในข้อ 2 ถูกต้องสอดคล้องกันรหัสผ่านจะถูกเปลี่ยนเป็น
123456
4.
ให้ทำการเข้าสู่ระบบ
แล้วเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่ทันที
การเปลี่ยนรหัสผ่าน
1.
ล่างสุดของหน้าจอในเลือกของฉัน(MY) แล้วเลือกเปลี่ยนรหัสผ่าน(Change Password)ตรงกลางหน้าจอ
2.
ใส่รหัสผ่านเก่าที่ช่องบน
และรหัสผ่านใหม่ที่ 2 ช่องล่าง แล้วกดปุ่มตกลง(Ok)
การเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคล
1.
ล่างสุดของหน้าจอในเลือกของฉัน(MY) แล้วเลือกข้อมูลส่วนบุคคล(Personal Data) ตรงด้านบนของหน้าจอ
2.
ทำการเปลี่ยนข้อมูลตามที่ต้องการ
การจัดการนาฬิกาที่ต้องการควบคุม
(เพิ่ม, แก้ไขชื่อเล่น, ลบ)
1.
ล่างสุดของหน้าจอในเลือกของฉัน(MY) แล้วเลือกรายการ อุปกรณ์(Device list) ตรงด้านบนของหน้าจอ
2.
ถ้าต้องการเพิ่มนาฬิกาให้กดเพิ่มอุปกรณ์(Add device) แล้วใส่รหัสนาฬิกาในช่องรหัสลงทะเบียน(License) และชื่อเล่น(Nickname)
ของเด็ก แล้วกดปุ่มบันทึก(Save)
3.
ถ้าต้องการเปลี่ยนชื่อเล่นของเด็กให้กดเปลี่ยนชื่อเล่น(Edit nickname) กรอกชื่อเล่นตามที่ต้องการแล้วกดตกลง
4.
ถ้าต้องการลบนาฬิกาให้เลือกที่ลบอุปกรณ์(Delete device)
การตั้งเวลาให้กับนาฬิกา
นาฬิกาที่ซื้อมาใหม่อาจจะยังไม่ได้ตั้งเวลาตามประเทศไทย
ซึ่งสามารถตั้งได้ตามขั้นตอนดังนี้
1.
ล่างสุดของหน้าจอให้เลือกหน้าแรก(HOME) แล้วการตั้งค่า(SETTINGS)ที่อยู่ตรงกลางขวามือของหน้าจอ
2.
เลือกภาษาและโซนเวลา(Language and Time Zone)
3.
เลือก East:GMT+7:00 แล้วกดปุ่มตกลง(Ok)
ที่อยู่ด้านบนของหน้าจอ
การสั่งปิดนาฬิกาจากแอปพลิเคชัน
1.
ล่างสุดของหน้าจอให้เลือกหน้าแรก(HOME) แล้วการตั้งค่า(SETTINGS)ที่อยู่ตรงกลางขวามือของหน้าจอ
2.
เลือก
ปิดเครื่องจากระยะไกล (Remote Shut Down) แล้วกดปุ่มตกลง(Ok)
การตั้งเบอร์โทรศัพท์ที่นาฬิกาสามารถโทรออกและรับสายได้
สามารถตั้งเบอร์โทรศัพท์ที่นาฬิกาสามารถโทรออกและรับสายได้ทั้ง
10 เบอร์โดยมีขั้นตอนดังนี้
1.
ล่างสุดของหน้าจอให้เลือกหน้าแรก(HOME) แล้วการตั้งค่า(SETTINGS)ที่อยู่ตรงกลางขวามือของหน้าจอ
2.
เลือกสมุดโทรศัพท์(Telephone)
3.
ทำการใส่ชื่อและเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการแล้วกดบันทึก(Save) แต่ชื่อต้องเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้นเพราะถ้าเป็นภาษาไทยเวลาไปปรากฏที่นาฬิกาจะอ่านไม่รู้เรื่อง
การตั้งเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถโทรเข้าหานาฬิกาได้อย่างเดียว
ต้องมีการกำหนดหมายเลขฉุกเฉิน(SOS) ก่อนอย่างน้อย 1
หมายเลข ถ้ายังไม่มีการกำหนดหมายเลขฉุกเฉินเบอร์โทรศัพท์ทุกเบอร์จะสามารถโทรเข้าหานาฬิกาได้ทั้งหมด
นาฬิกาจะไม่สามารถโทรเข้าเบอร์เหล่านี้ได้
แต่เบอร์ที่กำหนดเหล่านี้จะสามารถโทรหานาฬิกาได้ โดยกำหนดได้ 10 เบอร์
ตามขั้นตอนดังนี้
1.
ล่างสุดของหน้าจอให้เลือกหน้าแรก(HOME) แล้วการตั้งค่า(SETTINGS)ที่อยู่ตรงกลางขวามือของหน้าจอ
2.
เลือกสมุดโทรศัพท์ของเด็ก(Contacts)
3.
ทำการใส่ชื่อและเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการแล้วกดบันทึก(Save)
การแอบฟัง
เป็นการสั่งให้นาฬิกาโทรกลับมาที่โทรศัพท์มือถือโดยที่ผู้ใส่นาฬิกาไม่รู้ตัวซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
1.
ล่างสุดของหน้าจอให้เลือกหน้าแรก(HOME) แล้วการตั้งค่า(SETTINGS)ที่อยู่ตรงกลางขวามือของหน้าจอ
2.
เลือก
การดูแลโดยเสียง(Monitoring)
3.
ทำการใส่เบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการให้โทรกลับมาแล้วกดปุ่มตกลง(Ok)
การกำหนดช่วงเวลาที่ไม่สามารถโทรเข้าหานาฬิกา
เป็นการกำหนดช่วงเวลาที่ไม่ต้องการให้มีการโทรเข้าหานาฬิกา
เพราะถ้าโทรหาในช่วงที่กำหนดนาฬิกาจะทำการตัดสายทิ้งโดยอัตโนมัติ
ส่วนใหญ่จะเป็นการกำหนดช่วงเวลาเรียนเพราะไม่ต้องการรบกวนคนอื่นในชั้นเรียน
โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
1.
ล่างสุดของหน้าจอให้เลือกหน้าแรก(HOME) แล้วการตั้งค่า(SETTINGS)ที่อยู่ตรงกลางขวามือของหน้าจอ
2.
เลือกเวลาห้ามรบกวน(Do Not Disturb)
3.
สามารถกำหนดได้ 3 ช่วงเวลา
โดยให้เปิดสวิตซ์ในช่วงเวลาที่ต้องการ และทำการกำหนดช่วงเวลาแล้วกดปุ่มตกลง(Ok)
การส่งข้อความหานาฬิกา
1.
ล่างสุดของหน้าจอให้เลือกหน้าแรก(HOME) แล้วเลือกรายการอินเตอร์คอม(CHAT)ที่อยู่ด้านบนของหน้าจอ
2.
ถ้าต้องการส่งข้อความเสียงให้กดปุ่มเริ่มอัดเสียง(Start record)และพูดข้อความที่ต้องการส่งหลังจากพูดเรียบร้อยแล้วให้กดปุ่มสิ้นสุดการอัดเสียง(Stop record) ข้อความที่พูดต้องไม่เกิน 15 วินาที
3.
ถ้าต้องการส่งข้อความเป็นตัวหนังสือให้เลือกที่รูปคีย์บอร์ดด้านซ้ายล่าง
แล้วพิมพ์ข้อความที่ต้องการส่ง หลังจากนั้นกดปุ่มส่ง(Send) ข้อความที่ส่งต้องเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
ไม่เช่นนั้นข้อความที่ปรากฏที่นาฬิกาจะอ่านไม่รู้เรื่อง
การตั้งค่ากรณีฉุกเฉิน(SOS)
การตั้งเบอร์โทรศัพท์ของคนใกล้ชิด
เบอร์โทรศัพท์ที่ตั้งขึ้นจะเป็นเบอร์ที่นาฬิกาโทรมาหาเมื่อกดปุ่มฉุกเฉินที่นาฬิกาค้างไว้ประมาณ
7 วินาที โดยจะตั้งได้ทั้งหมด 3 เบอร์
ซึ่งนาฬิกาจะโทรหาทีละเบอร์ตามลำดับจนกว่าจะมีเบอร์ใดเบอร์หนึ่งรับสาย
ขั้นตอนการตั้งเบอร์โทรศัพท์กรณีฉุกเฉินมีดังนี้