เข้าชม : 809 ครั้ง
รหัสสินค้า : #BBB182 น้ำหนัก : 500 กรัม Packing : 20*15*5 cm.
ตัวเลือกสินค้า | 3 ชิ้นขึ้นไปชิ้นละ | |
85ml | 299฿.- | - |
ครีมทาผิวขาว ลดจุดด่างดำ(AHA BODY )
เซรั่มปรับผิวขาว สูตรขาวเร็วกระจ่างใส
คุณสมบัติ ช่วยทำให้ผิวขาวกระจ่างใส ลดรอยด่าง ทำให้สีผิวสมำเสมอกันไม่เป็นสองสี ผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกเผยผิวใหม่สดใสกว่า เนื้อเซรั่มซึบซาบง่าย
วิธีใช้ ทาให้ทั่วเฉพาะกลางคืน กลางวันควรใช้คู้กับกันแดด
**ควรรอจนแห้ง แล้วใช้ครีมบำรุง ผิว ทาทับ เพื่อความชุ่มชื้น ที่มากขึ้น
ส่วนผสม Lactic Acid 15% , Hya
Lactic Acid เป็นกรดผลไม้ที่ใช้ในการลอกผิว สามารถทำให้เซลล์ที่ตายลอกออก กระตุ้นให้เซลล์เจริญขึ้นมาใหม่ กรดผลไม้นี้เตรียมมาจาก นมเปรี้ยว มะเขือเทศ เป็นกรดที่นิยมนำมาใช้ในการผลัดเซลล์ผิว และมีความอ่อนโยนกับผิวพรรณ เหมาะกับผิวที่แพ้ง่ายหรือผิวที่ยังไม่เคยใช้เอเอชเอมาก่อน เรื่องของกรดผลไม้ (fruit acid) ไม่ใช่เรื่องใหม่ ผู้หญิงยุคหลายพันปีก่อนรู้จักกรดผลไม้กันแล้ว ตัวอย่างที่เห็นเด่นชัดคือ พระนางคลีโอพัตราแห่งอียิปต์ ได้ใช้น้ำนมเปรี้ยว สำหรับสระสรงชำระล้างร่างกาย และใช้เหล้าองุ่นแดงล้างหน้า อีกหลายร้อยปีต่อมา ดัชเชสแห่งแอลบ้าของสเปนได้ใช้กลีบส้มประคบทะนุถนอมใบหน้า จนมาถึง คริสตศตวรรษที่ 19 พระนางอลิซาเบธแห่งฮังการี ได้สรงพระพักตร์ด้วยเหล้าไวน์ ที่เจือปนสมุนไพรต่างๆ และสรงน้ำชำระพระองค์โดยใช้น้ำแร่ที่เจือปนไปด้วยมะนาว กุหลาบ และใบเป็บเปอร์มินท์ ต่างๆ เหล่านี้ที่สตรียุคโบราณใช้กันล้วนมีส่วนผสม ของกรดผลไม้ทั้งนั้น ถ้าเปรียบการใช้น้ำนมของพระนางคลีโอพัตรากับสมัยนี้ก็คือการใช้โยเกิร์ตพอกผิวนั่นเอง กรดผลไม้หรือ AHA ซึ่งย่อมาจาก Alpha Hydroxy Acid เป็นกรดที่ได้มาจากหลายอย่างมีฤทธิ์ทำให้ผิวลอกเล็กน้อย กรดเหล่านี้ส่วนใหญ่มาเรียกง่ายๆ กันว่ากรดผลไม้หรือ fruit acid นอกจากนั้นก็ยังพบ AHA ในขิง อ้อย นม น้ำมะเขือเทศ เหล้าไวน์ กรดผลไม้ที่รู้จักกันดีที่สุดคือ กรดไกลคอลิก (Glycolic acid) ซึ่งเตรียมได้จาก น้ำอ้อยและองุ่นดิบ ที่รู้จักรองลงมาคือกรดแล็คติก (lactic acid) ซึ่งมาจากน้ำมะเขือเทศและนมเปรี้ยว นอกจากนั้นก็ยังมีกรดผลไม้ที่เตรียมจากแอปเปิลคือกรดมาลิก (Malic acid) เตรียมจากองุ่นและไวน์คือ กรดตาร์ตาริก (Tartaric acid) และเตรียมจากส้มและสับปะรดคือกรดซิตริก (Citric acid) กรดผลไม้ที่รู้จักกันดีที่สุดและมีงานวิจัยต่อเนื่องกันมานานนับ 20 ปี คือ กรดไกลคอลิก และกรดแล็คติก จึงแนะนำให้ใช้กรดพวกนี้เพราะรู้จักกันมานานแล้วจากข้อมูลทางวิชาการพบว่า คุณสมบัติของสาร เอ เอช เอ ที่ใช้ผสมในเครื่องสำอางมีผลต่อผิวหนัง คือ ช่วยลดความหนาของผิวหนังชั้นนอกทำให้เซลล์ผิวหนังชั้นบน ซึ่งเป็นหนังกำพร้าหลุดออกไปได้ง่าย และช่วยสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาแทนเซลล์ที่หลุดออกไป ซึ่งเป็นผิวที่อ่อนนุ่มละมุน เรียบเนียน ขาวใส ดูมีสุขภาพดี และทำให้ผิวใหม่ที่เผยออกมา สามารถรับสารบำรุงได้ดียิ่งขึ้น สามารถยับยั้งเอนไซม์ tyrosinase ที่เป็นสาเหตุให้ผิวเกิดจุดด่างดำ สำหรับปริมาณของสาร เอ เอช เอ ที่ใช้ในเครื่องสำอางที่ให้ผลดีและผู้เชี่ยวชาญด้าน ผิวหนังแนะนำ คือ ไม่ควรเกิน 15% ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผิวหนังบริเวณที่ใช้ด้วย เช่น ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหน้าไม่ควรใช้สารเอ เอช เอ เกิน 10% หรือหากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวกายยกเว้นใบหน้า ก็จะใช้สาร เอ เอช เอ ตั้งแต่ 4-15% ผสมในเครื่องสำอางประเภทนั้นๆ และควรเริ่มใช้ AHA ในขนาดต่ำก่อน เพื่อกันการระคายเคือง
ประโยชน์ของ AHA ต่อผิวหนัง
1. จะทำให้เซลล์ผิวหนังกำพร้าชั้นบน ที่เป็นเซลล์ที่ตายแล้ว ซึ่งก็คือ ขี้ไคล นั่นเอง มีการหลุด ลอกออกได้ง่ายขึ้น ซึ่งโดยปกติการหลุดลอกของผิวนี้ จะมีการพอกพูนหนาขึ้น และลอก ออกยากขึ้นตามอายุ และทำให้ผิวดูหยาบกร้าน ดังนั้นผลของ AHA ต่อผิวหนังชั้นบนนี้ จะทำให้ผิวหนังส่วนนี้หลุดลอกง่ายขึ้น ทำให้ดูมีผิว เปล่งปลั่งสดใสมากขึ้น
2. จะช่วยกระตุ้นการสร้างผิวหนังจาก Basal cells ซึ่งเป็นเซลล์ใต้ผิวหนัง ให้มีการเร่งการสร้าง ผิวใหม่ทดแทนผิวเก่า ที่หลุดลอกออก ทำให้มีการสร้างผิวใหม่ขึ้นมาและผิวมีสุขภาพดีขึ้น
3. จะกระตุ้นเซลล์หนังแท้ ให้มีการสร้าง คอลลาเจนไฟเบอร์ (Collagen fibers), อีลาสติก ไฟเบอร์ (Elastic fibers), Mucopolysaccharide ซึ่งเป็นองค์ประกอบของหนังแท้ โดย ปกติเมื่ออายุมากขึ้น ชั้นผิวหนังจะบางลง และทำให้ผิวมีการยุบตัว หย่อนยาน มีริ้วรอยย่น ดังนั้นเมื่อใช้ AHA ก็จะช่วยให้มีการสร้างผิวให้หนาขึ้นลดลอยย่นและริ้วรอยต่างๆ ได้
4. AHA ที่ใช้ในความเข้มข้นสูง จะทำให้ชั้นหนังกำพร้าแยกตัวออกจากหนังแท้ซึ่งนำไปใช้ รักษาโรคผิวหนังบางชนิด เช่น กระเนื้อ, หูด เป็นต้น ซึ่งก็ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์
5. AHA เชื่อว่าสามารถทำให้ยาอื่น ออกฤทธิ์ต่อผิวหนังได้ดีขึ้น โดยทำให้ยาสามารถดูดซึมเข้า ผิวหนังได้ดีขึ้น เราจึงพบ AHA ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์รักษา สิว, กระ, ฝ้า, รอยด่างดำ, แผล เป็น ฯลฯ
6. ทำให้ผิวหนังเรียบเนียนขึ้น
7. ลดปัญหาผิวแห้ง เนื่องจากผิวมีการผลัดเซลล์ที่แห้งกร้านออกไป ผิวที่เกิดใหม่มีการกัก เก็บอุ้มน้ำและสารบำรุงได้มากกว่าเดิม จึงทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น 8.รักษาสิวเพราะไม่มีการอุดตันของสิ่งสกปรก รูขุมขนสะอาด จึงลดปัญหาสิวได้ค่ะ
ข้อควรระวัง
1.อาจจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ จะรู้สึกคันยิบๆ ซึ่อาการนี้อาจหายได้ แต่ถ้าใช้ AHA ในความเข้มข้นสูง อาจทำให้เกิดอาการแสบผิวได้ โดยขึ้นกับความเข้มข้นที่ใช้ ระยะเวลา และสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย ดังนั้นจึงควรใช้ในบริเวณเล็กๆก่อน เนื่องจากผิวหนัง คนเรามีความไวไม่เท่ากัน
2.อาการผิวลอก เกิดจากผิวหนังกำพร้าแยกตัวออกจากหนังแท้ ซึ่งก็ขึ้นกับระยะเวลาที่ เอเอชเอสัมผัสกับผิว และสภาพความไวของผิวด้วย โดยเฉพาะกับผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย สามารถลดปริมาณการใช้ลงได้
3.AHA ในความเข้มข้นสูงเกินไปอาจทำให้เกิดรอยด่างดำได้ จึงควรใช้ในความเข้มข้นที่ พอเหมาะ
4.ผิวหนังจะมีความไวต่อแสงอุลตราไวโอเลตเพิ่มขึ้น อาจมีการไหม้ของผิวได้ง่ายขึ้นเมื่อ ตากแดด หรือมีความรู้สึกแสบผิวได้มากขึ้น จึงควรใช้ตอนกลางคืน และในตอนเช้าควรทา ครีมกันแดดเสมอ ไม่แนะนำให้ใช้ตอนเช้า เพราะบางคนใช้แล้วออกแดดเลย ผิวหน้าอาจ แดงได้ค่ะ
5.อย่าลืมใช้ครีมกันแดดที่มีค่าSPFอย่างน้อย15 เพื่อปกป้องผิว เพราะถ้าเราผลัดเซลล์ผิวได้ ผลดีแล้ว แต่ไม่มีการปกป้อง ผิวก็จะเสียได้อีกค่ะ ดังนั้นจึงขาดไม่ได้นะคะ สำหรับครีมกันแดด
ครีมทาผิวขาว ลดจุดด่างดำ(AHA BODY )
เซรั่มปรับผิวขาว สูตรขาวเร็วกระจ่างใส
คุณสมบัติ ช่วยทำให้ผิวขาวกระจ่างใส ลดรอยด่าง ทำให้สีผิวสมำเสมอกันไม่เป็นสองสี ผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกเผยผิวใหม่สดใสกว่า เนื้อเซรั่มซึบซาบง่าย
วิธีใช้ ทาให้ทั่วเฉพาะกลางคืน กลางวันควรใช้คู้กับกันแดด
**ควรรอจนแห้ง แล้วใช้ครีมบำรุง ผิว ทาทับ เพื่อความชุ่มชื้น ที่มากขึ้น