เรื่องของมลพิษอาจไม่ได้กระทบแค่ผู้ใหญ่อย่างเราๆ ท่านๆ เพียงกลุ่มเดียว เด็กๆ ที่ไร้เดียงสา ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน และอาจรุนแรงกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า เพราะร่างกายของเด็กนั้นบอบบาง และไม่มีภูมิต้านทานเท่า
เมื่อเอ่ยถึงปัญหามลพิษ ประเด็นเรื่องอากาศสกปรกดูจะเป็นเรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่งที่พ่อแม่หลายคนเป็นห่วง ผู้เชี่ยวชาญจากเฮลท์เดย์นิวส์จึงได้ให้คำแนะนำหากมีบ้านอยู่ในบริเวณที่อากาศเป็นพิษมาฝากกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันเลยค่ะ
- รักษาความสะอาดของบ้าน หมั่นเช็ดฝุ่นบ่อยๆ ด้วยผ้าสะอาดชุบน้ำ ไม่ควรใช้แปรง หรือที่ปัดฝุ่นที่มีขน เพราะอาจทำให้ฟุ้งกระจาย อาจติดตั้งเครื่องฟอกอากาศไว้ด้วย
- กรณีที่บ้านอยู่ติดกับพื้นที่ที่มีมลภาวะสูง เช่น ใกล้ถนนเส้นหลักทีมีการจราจรติดขัด ควรลดการใช้ชีวิตนอกบ้านของเด็กลง ไม่ให้ออกไปเล่นนอกบ้านในเวลาเช้า หรือเย็น เพราะจะทำให้เด็กสูดควันพิษเข้าไปมาก
- การออกกำลังกายของเด็กอาจต้องปรับรูปแบบให้เหมาะสม เช่น เปลี่ยนเป็นกีฬาในร่มแทนกีฬากลางแจ้ง
- ควรเปิดบ้านให้ถ่ายเทได้บ้างในบางช่วงเวลา เช่น เวลาที่โรงงานหยุดทำการ เพื่อไม่ให้บ้านอับจนเกินไป และไม่ควรจุดไฟเผาขยะในบริเวณบ้าน
- ปลูกต้นไม้สูงรอบบ้านสำหรับช่วยกรองอากาศ และผลิตออกซิเจน
- ลดการใช้สารเคมีทำความสะอาดบางประเภทที่มีฤทธิ์รุนแรง เพราะจะทำให้อากาศในบ้านเป็นอันตรายสำหรับเด็กมากขึ้นไปด้วย
- ไม่สตาร์ทรถทิ้งไว้ในบริเวณบ้าน
- ไม่นอนในห้องที่อยู่ติดกับโรงรถ หรือได้รับควันจากโรงรถ
- ไม่สูบบุหรี่ เพราะเท่ากับเป็นการเพิ่มมลพิษให้กับบ้าน
- รักษาความสะอาดภายในห้องครัวอยู่เสมอ จะได้ลดจำนวนแมลงที่จะเข้ามากินเศษอาหาร และลดการใช้สารเคมีที่ต้องฉีดพ่นเพื่อกำจัดแมลงเหล่านั้น
- หากอาการรุนแรงมากขึ้น ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการตรวจรักษา
เรียบเรียงจากเฮลท์เดย์นิวส์
เมื่อเอ่ยถึงปัญหามลพิษ ประเด็นเรื่องอากาศสกปรกดูจะเป็นเรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่งที่พ่อแม่หลายคนเป็นห่วง ผู้เชี่ยวชาญจากเฮลท์เดย์นิวส์จึงได้ให้คำแนะนำหากมีบ้านอยู่ในบริเวณที่อากาศเป็นพิษมาฝากกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันเลยค่ะ
- รักษาความสะอาดของบ้าน หมั่นเช็ดฝุ่นบ่อยๆ ด้วยผ้าสะอาดชุบน้ำ ไม่ควรใช้แปรง หรือที่ปัดฝุ่นที่มีขน เพราะอาจทำให้ฟุ้งกระจาย อาจติดตั้งเครื่องฟอกอากาศไว้ด้วย
- กรณีที่บ้านอยู่ติดกับพื้นที่ที่มีมลภาวะสูง เช่น ใกล้ถนนเส้นหลักทีมีการจราจรติดขัด ควรลดการใช้ชีวิตนอกบ้านของเด็กลง ไม่ให้ออกไปเล่นนอกบ้านในเวลาเช้า หรือเย็น เพราะจะทำให้เด็กสูดควันพิษเข้าไปมาก
- การออกกำลังกายของเด็กอาจต้องปรับรูปแบบให้เหมาะสม เช่น เปลี่ยนเป็นกีฬาในร่มแทนกีฬากลางแจ้ง
- ควรเปิดบ้านให้ถ่ายเทได้บ้างในบางช่วงเวลา เช่น เวลาที่โรงงานหยุดทำการ เพื่อไม่ให้บ้านอับจนเกินไป และไม่ควรจุดไฟเผาขยะในบริเวณบ้าน
- ปลูกต้นไม้สูงรอบบ้านสำหรับช่วยกรองอากาศ และผลิตออกซิเจน
- ลดการใช้สารเคมีทำความสะอาดบางประเภทที่มีฤทธิ์รุนแรง เพราะจะทำให้อากาศในบ้านเป็นอันตรายสำหรับเด็กมากขึ้นไปด้วย
- ไม่สตาร์ทรถทิ้งไว้ในบริเวณบ้าน
- ไม่นอนในห้องที่อยู่ติดกับโรงรถ หรือได้รับควันจากโรงรถ
- ไม่สูบบุหรี่ เพราะเท่ากับเป็นการเพิ่มมลพิษให้กับบ้าน
- รักษาความสะอาดภายในห้องครัวอยู่เสมอ จะได้ลดจำนวนแมลงที่จะเข้ามากินเศษอาหาร และลดการใช้สารเคมีที่ต้องฉีดพ่นเพื่อกำจัดแมลงเหล่านั้น
- หากอาการรุนแรงมากขึ้น ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการตรวจรักษา
เรียบเรียงจากเฮลท์เดย์นิวส์